เสียงจากเด็กๆเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนในงาน “RACE FOR SURVIVAL วิ่งเพื่อเด็ก”
ในวันจันทร์นี้ ตัวแทนเด็กๆ จากโรงเรียนหกแห่งของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะร่วมวิ่งในกิจกรรมงาน “Race for Survival วิ่งเพื่อเด็ก” ที่จัดขึ้นโดยองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) ณ โรงเรียนบางจาก (โกมลประเสริฐอุทิศ) เพื่อสนับสนุนความสำคัญของมาตรการการสวมหมวกนิรภัยในเด็กเพื่อให้เด็กอยู่รอด
แม้ว่าประเทศไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goal: MDG) ข้อ 4 ในการลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กลงสองในสามเท่า ในระหว่างปีพ.ศ. 2533 - 2558 แต่ประชาชนชาวไทยก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยอื่นๆอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น การที่เด็กไม่สวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ทำให้เด็กๆจำนวนมากตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต รวมทั้งความพิการซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็กๆ
มีเด็กไทยมากกว่า 7 คน ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในแต่ละวัน และเนื่องจากมีเด็กๆ จำนวนมากถึงประมาณ 1.3 ล้านคนเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ รัฐบาลไทยจึงได้ออกกฎหมายให้คนไทยทุกคน รวมทั้งเด็กๆ ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่ตลอดเวลา ถึงกระนั้น เรายังพบเห็นผู้โดยสารที่เป็นเด็กหลายคนไม่ได้สวมหมวกนิรภัยอยู่ทั่วไป โดยขณะนี้มีเด็กๆ เพียงร้อยละ 7 ที่สวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ ผลที่เกิดขึ้นคือความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง นั้นคือเด็กๆ ประมาณ 2,600 คนต้องมาเสียชีวิต และเด็กๆ อีกกว่า 72,000 คนต้องบาดเจ็บในแต่ละปีจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่ร้ายแรงนี้ ในวันที่ 10 สิงหาคม เด็กๆจะวิ่งในงาน “Race for Survival วิ่งเพื่อเด็ก” โดยมีผู้แทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ และผู้แทนจากหน่วยงานอื่นๆทั้งในระดับนานาชาติและระดับประเทศที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน พร้อมทั้งรับไม้ผลัดต่อจากเด็กๆ
คุณอลิสัน เซลโควิทซ์ ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย กล่าวว่า “องค์การช่วยเหลือเด็กเชื่อมั่นว่าเด็กๆ ทุกคนควรได้รับการเอาใจใส่ไม่ปล่อยปละละเลย เด็กๆ ทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมในการมีชีวิตอยู่และเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ไม่ว่าจะเกิดในที่ใดก็ตาม ประเทศไทยอาจจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษข้อ 4 แล้ว แต่เด็กๆ หลายคนยังต้องเสียชีวิตจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ในประเทศไทย ปัญหานี้ต้องยุติได้แล้ว”
องค์การช่วยเหลือเด็กพยายามหาหนทางลดจำนวนการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ผ่านการรณรงค์ให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ และเด็กๆ ตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ และเพื่อให้มั่นใจว่าการสวมหมวกนิรภัยจะกลายเป็นนิสัยโดยผ่านอิทธิพลในเชิงบวกจากคนรอบข้าง
"พ่อแม่หลายคนเชื่อว่าเด็กไม่จำเป็นต้องสวมหมวกนิรภัย เพราะตนเองขับขี่ปลอดภัยเพียงพอ และจะสามารถป้องกันลูกของตนได้หากเกิดอุบัติเหตุ” คุณอลิสันกล่าว “แต่มันไม่จริงเสมอไป เพราะเมื่อรถชน ตัวเด็กจะปลิวออกจากรถ และอาจจะตายได้หากไม่สวมหมวกนิรภัย”
องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) ดำเนินการในประเทศไทยมากว่า 30 ปี โดยมีโครงการต่างๆที่มุ่งเน้นเรื่องการศึกษา การคุ้มครองเด็ก การลดความเสี่ยงของการเกิดภัยพิบัติ สุขภาพและโภชนาการ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาทุกข์จากภาวะภัยพิบัติต่างๆ
องค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย และมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ภายใต้ความร่วมมือในการทำงานโครงการ “7 เปอร์เซ็นต์” มีวัตถุประสงค์ในการลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กไทยจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ โดยการเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 60 ภายในปี พ.ศ. 2560
รายละเอียดงาน
ตัวแทนสื่อมวลชนสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ตามกำหนดการ
วัน: จันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2558
เวลา: 9.00 – 11.30 น.
สถานที่: โรงเรียนบางจาก (โกมลประเสริฐอุทิศ) เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
เริ่มลงทะเบียนเวลา 9.00 น. ตามด้วยการวิ่งผลัดของเด็กเพื่อส่งไม้ผลัดให้ผู้แทนภาครัฐและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และการแสดงโดยตัวแทนนักเรียนโรงเรียนบางจาก (โกมลประเสริฐอุทิศ) ที่ได้รับรางวัลจากการประกวด
รายละเอียดงานวิ่ง Race for Survival ในประเทศอื่นๆ ดูที่ https://www.savethechildren.net/raceforsurvival/
###
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
คุณทรงพร ลีลากิตติโชค
เจ้าหน้าที่ประสานงานการสื่อสารและรณรงค์
องค์การช่วยเหลือเด็ก
อีเมล: bea.leelakitichok@savethechildren.org