องค์การช่วยเหลือเด็กเปิดตัวโครงการรณรงค์หมวกกันน็อคไอเดียใหม่
องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) ร่วมกับภาคีเครือข่ายเผยผลการทำงานรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการสวมหมวกน็อครูปแบบใหม่ พบว่าในภาคการศึกษาแรก อัตราการสวมหมวกกันน็อคของนักเรียนในโรงเรียนนำร่องเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า คือจาก 11% เป็น 30% โดยที่ไม่ต้องแจกหมวกกันน็อคเพิ่มเติมให้กับโรงเรียน และนักเรียนแต่อย่างใด
กุญแจสำคัญที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อความปลอดภัยคือการส่งเสริมนักเรียนแกนนำชั้น ป.4 ป.5 และ ป.6 และคุณครูแกนนำของโรงเรียนนำร่องในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 6 แห่ง เป็นตัวกระตุ้นให้โรงเรียนนำหมวกกันน็อคที่มีอยู่ในสต็อกออกมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้นักเรียน และคุณครูแกนนำยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เพื่อนครู พ่อแม่ผู้ปกครองของเพื่อนร่วมชั้น และนักเรียนรุ่นน้องช่วยกันกวดขันให้นักเรียนทุกคนสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเรียนหนังสือ
"เราเชื่อว่าเด็กๆ มีพลังสร้างสรรค์ที่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมทั้งในกลุ่มเพื่อนนักเรียน และคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคุณครู หรือพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ คนขับจักรยานยนต์รับจ้างให้สวมหมวกกันน็อคเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย" คุณอรุณรัตน์ วัฒนผลิน ผู้จัดการโครงการความปลอดภัยทางถนน องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) กล่าว
โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทำงานของ (Save the Children) และเครือข่ายในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังพบว่า ครอบครัว และโรงเรียนจำนวนมากเป็นเจ้าของหรือสามารถเข้าถึงหมวกนิรภัยได้ แต่กลับพบว่า อัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กที่เป็นผู้โดยสารยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ
คุณอรุณรัตน์กล่าวด้วยว่า ผลจากการดำเนินกิจกรรมในโรงเรียนนำร่อง จะเห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสวมหมวกกันน็อคเป็นไปในทิศทางที่ดี องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) จึงเตรียมเดินหน้าขยายโครงการไปยังโรงเรียนอีก 300 แห่งภายในปีการศึกษา 2559 เพื่อบ่มเพาะต้นกล้าเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ให้สร้างจิตสำนึกความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุบนท้องถนนระยะยาว
ทั้งนี้ มูลนิธิไทยโรดส์ (Thai Roads Foundation) พันธมิตรการทำงานขององค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) เตรียมนำเสนอรายงานข้อมูลเชิงสถิติและแนวโน้มล่าสุด ด้านความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน ในงานเปิดตัวโครงการดังกล่าว หลังข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยในแต่ละปี มีเด็กกว่า 2,600 คนเสียชีวิต หรือมากกว่า 7 คนต่อวัน และอีกเกือบ 200 คนต่อวันได้รับบาดเจ็บหรือพิการ หรือกว่า 72,000 คนต่อปี นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังพบ อุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์มีมากถึง170,913 รายภายในปี 2555 เพียงปีเดียว
งานเปิดตัวโครงการรณรงค์สวมหมวกกันน็อคไอเดียใหม่ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากฮีโร่กันน็อครุ่นใหญ่จากทุกสาขาอาชีพ ภายใต้แคมเปญ “Helmet Hero” หรือ “ฮีโร่กันน็อค” ภาคผู้ใหญ่ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เข้าร่วมพูดคุยบอกเล่าประสบการณ์และแรงบันดาลใจของพวกเขา เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน บนเวทีในหัวข้อ: เราจะทำให้โครงการรณรงค์สวมหมวกกันน็อคประสบความสำเร็จในสังคมได้อย่างไรนำทีมโดย คุณเต๋า สมชาย เข็มกลัด นักแสดงมากความสามารถในฐานะคุณพ่อผู้ชื่นชอบชิวิตบนบิ๊กไบค์ คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชื่อดัง คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่รักของลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ Biker Chicks Thailand บรรดาสาวนักบิดสุดเปรี้ยว คุณคูณคลัง เค้าภูไทย ผู้กำกับโฆษณามือรางวัล และคุณชีวา ลาภิณตั้งสุทธิ จากรายการชีวา คลาสสิคเป็นต้น
องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) เชื่อว่าความสูญเสียเหล่านี้สามารถป้องกันได้ ด้วยการให้เด็กๆ สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง เมื่อซ้อนท้ายจักรยานยนต์ จึงได้ร่วมมือกันริเริ่มโครงการ The 7% Project – เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กกว่า 2,000 คน และปกป้องเด็กจากการบาดเจ็บอีกกว่า 50,000 คน ทั่วประเทศภายในปี 2560
##########
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
คุณทรงพร ลีลากิตติโชค
เจ้าหน้าที่ประสานงานการสื่อสารและรณรงค์
องค์การช่วยเหลือเด็ก
อีเมล: bea.leelakitichok@savethechildren.org